Massive Open Online Course (MOOCs)
คำว่า อีเลิร์นนิง
นั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในวงการการศึกษา
ซึ่งปัจจุบันสามารถเข้าถึงหลักสูตรการเรียนรู้ต่างๆ
ทางออนไลน์และอุปกรณ์โมบายต่างๆ ได้โดยสะดวก
เทคโนโลยีไอซีทีก้าวหน้าไปไม่หยุดยั้งก็ทำให้เทคโนโลยีด้านอีเลิร์นนิงมีการพัฒนารูปแบบและช่องทางใหม่ๆ
เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
และเทคโนโลยีด้านการศึกษาที่กำลังถูกกล่าวขวัญถึงในปัจจุบันกันอย่างมากก็คือ
“MOOC” (อ่านว่า
“มู้ก”)
ความหมายของ Massive Open Online Course
Massive ผู้เรียนลงทะเบียนได้มากกว่า
10,000คน
Open ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ใครๆก็ลงทะเบียนเรียนได้
Online เรียนออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต
Course เปิดสอนได้ตลอดตามเวลาที่ต้องการได้
โดยไม่จำเป็นต้องขอรับประกาศนียบัตรผล การเรียน
Moocs ย่อมาจาก Massive Open Online Course หมายถึง การเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนแบบออนไลน์
แบบเปิดเสรีที่ไม่ว่าใครก็ตามจากซีกไหนในโลกสามารถสมัครเข้าเรียนได้ไม่จำกัดจำนวน
โดยเฉพาะการศึกษาระดับสูงที่ในระบบการศึกษาเดิมนั้นจำกัดอยู่แต่เฉพาะคนจำนวนน้อยเท่านั้น
ที่มา http://www.youtube.com/watch?v=eW3gMGqcZQc
ข่าวสารด้าน Massive Open Online Course
Moocs เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันมีทั้งที่ทำในเชิงธุรกิจเพื่อสร้างกำไร
หรือเป็นแบบไม่แสวงกำไร หนึ่งใน Moocs แบบไม่แสวงกำไรที่เป็นรู้จักกันก็คือ
edX ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและเอ็มไอทีของสหรัฐอเมริกา
เปิดหลักสูตรออนไลน์ฟรีจากมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ
ใครที่ไหนในโลกที่มีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษเพียงพอสามารถลงทะเบียนเรียนแบบออนไลน์ได้กันอย่างไม่จำกัด
มีผู้สอนที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
หรือผู้เชี่ยวชาญมาสอนผ่านระบบออนไลน์ไม่ต่างไปจากการเรียนในมหาวิทยาลัย
มีทุกอย่างที่เหมือนกันหมด ยกเว้นผู้เรียนไม่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น
วิธีนี้เปิดโอกาสให้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงการศึกษาระดับสูงได้แบบไม่จำกัด
ซึ่งในอดีตไม่สามารถทำได้
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวใหม่เกิดขึ้นก็คือ กูเกิล ยักษ์ใหญ่ในวงการไอทีของโลกก้าวเข้าในแวดวงนี้ด้วยการเปิดแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์แบบเปิดใหม่ขึ้นมาที่ชื่อว่า
MOOC.org
โดยจับมือกับ edX ซึ่งนอกจากจะมีหลักสูตรออนไลน์ฟรีจาก
edX แล้ว ยังรับหลักสูตรออนไลน์จากภายนอกจาก สถาบันอื่นๆ
รัฐบาล ธุรกิจ และจากคนทั่วๆ ไปด้วย
กล่าวโดยรวบรัด MOOC.org
เปิดเสรีสำหรับใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นคน หน่วยงาน องค์กร สถาบัน
เสนอหลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์ขึ้นมาที่ไซต์เพื่อเปิดสอน
หรือสุดท้ายแล้วสูงสุดก็คือ จะทำให้ MOOC.org เปรียบเสมือนยูทูบสำหรับ
Moocs เลยทีเดียว
MOOC.org จะเปิดตัวจริงๆ กันกลางปีหน้า
เพราะฉะนั้นตอนนี้เข้าไปที่เว็บไซต์จะยังไม่มีหลักสูตรอะไรนอกจากข้อมูลคร่าวๆ
แต่สามารถดูของจริงที่ให้บริการอยู่จาก www.edx.org และสามารถเลือกลงทะเบียนเรียน
หลักสูตรต่างๆ ได้ด้วย
แต่ละหลักสูตรเมื่อเรียนจบและผ่านจะมีใบรับรองให้ว่าผ่านการเรียนมาแล้วในวิชานั้นๆ
นี่คือโอกาสทางการศึกษาที่เปิดกว้าง
สำหรับมวลชนทั้งโลกจริงๆ
แม้จะจำกัดเฉพาะสำหรับคนที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เท่านั้นก็ตาม
แต่ต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา
เราไม่เคยมีระบบการศึกษาแบบขนานใหญ่และเปิดเสรีมากขนาดนี้มาก่อน
แม้จะมีสิ่งที่เรียกกันว่า การศึกษาทางไกลแต่เมื่อเทียบกับ Moocs แล้วยังห่างไกลกันมากคุณสมบัติสำคัญสำหรับของ MOOCs
เป็นระบบเปิดหรือเรียนได้แบบเสรีโดยที่ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนเป็นนักเรียนหรือเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งสิ้น
รองรับผู้เรียนได้อย่างกว้างไกลและรับจำนวนผู้เรียนมากได้
ซึ่งมีความแตกต่างกับการเรียนแบบเดิมๆ
ที่รองรับผู้เรียนได้จำนวนน้อยเพราะต้องใช้ครูสอน
ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดเรื่องอัตราส่วนของครูกับคนเรียน ซึ่ง MOOCs
ไม่มีข้อจำกัดนั้น เพราะสามารถรองรับผู้เรียนได้แบบมหาศาล หรือคุณสมบัติอื่นๆ เช่น
เนื้อหาที่นำมาให้เรียนเป็นเนื้อหาแบบเปิด
(open licensing of
content) เป็นต้น
แนวคิดที่เป็นแก่นของ MOOC เรียกว่า “หัวใจของ MOOC”
1. การเข้าถึง (Accessibility)
: การเรียนผ่าน MOOC นั้นส่วนใหญ่จะไม่มีค่าใช้จ่าย
โดยผู้จัดทำ (มหาวิทยาลัยต่างๆ)และผู้ให้ทุนสนับสนุนเริ่มต้นด้วยแนวคิด “เราเป็นคนใจดี” (CSR) ไม่มีค่าใช้จ่าย
(หรืออาจมีค่าใช้จ่ายถ้าแลกกับปริญญาบัตรจริง)
ทำให้ใครก็ตามที่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถเรียนได้
แต่ก็ต้องฟังภาษาที่เค้าสอนรู้เรื่องด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษ
2. การปฏิสัมพันธ์ (Interaction)
: การเรียนผ่าน MOOC
นั้นผู้เรียนไม่ได้เพียงนั่งฟังอย่างเดียว
ระหว่างดูวิดีโอไปจะมีคำถามแทรกอยู่ตลอด ทำให้ผู้เรียนต้องตั้งใจเรียนตลอดเวลา
นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถตั้งคำถามโดยให้เพื่อนนักเรียนที่มีอยู่ทั่วโลกมาช่วยกันมาตอบได้
และสามารถปรึกษากับผู้ส่วนหรือผู้ช่วยสอนได้ตลอด
ซึ่งสิ่งนี้เป็นการสร้างบรรยายการเรียนแบบ one-on-one (มีคนช่วยสอนแบบตัวต่อตัว)
ให้เกิดเป็นจริงในโลกออนไลน์ได้แม้จะมีนักเรียนเป็นจำนวนมากก็ตาม
ลักษณะการเรียนของ Massive Open Online Course
การเรียนลักษณะที่เรียกว่า MOOCs.
หรือ Massive Open Online Courses ที่ใช้หลักการนำเสนอแบบ
Anyone Anywhere “ใครก็ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้” เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น
และมีการเปิดหลักสูตรกันในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก ล่าสุดที่ออสเตรเลีย
โปรแกรม Open2Study ที่ออสเตรเลียได้เปิดโปรแกรมเรียนฟรีออนไลน์มาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยมี 10 วิชา(หลักสูตร วิชาละ 4
สัปดาห์)
7 เดือนต่อมา มีการเพิ่ม 32 วิชาเรียน โดยผู้ลงทะเบียนเรียน 60%
มาจากต่างประเทศ โดยในจำนวนนี้ 5 ชาติที่เรียนมากที่สุด
ได้แก่ สหรัฐ อินเดีย สหราชอาณาจักร สเปน และ แคนาดา
คอร์สที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ “Principles of project
management”, “Food, nutrition and your health”, “Writing for the web”, “User
experience for the web” and “Strategic management” ส่วนอาจารย์ผู้สอนก็มีความหลากหลาย
เพราะมาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมทั้งสถาบันในลักษณะโพลีเทคนิกต่าง ๆ
สิ่งที่เป็นความท้าทายของระบบ MOOCs
การศึกษาออนไลน์ ก็คือ แม้ว่าจะดึงดูดผู้เรียนได้จำนวนมาก
แต่ส่วนใหญ่เรียนไม่จบ จึงเป็นปัญหาให้ผู้ออกแบบระบบต้องไปวิเคราห์
เพราะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดการเรื่องนี้ โดยที่ผ่านมา มีเพียง 1 ใน 4
ที่เรียนโปรแกรม Open2Study ที่จบหลักสูตรตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระบบOpen2Study มองในแง่ดีว่า
เป็นเพราะโปรแกรมมีการเน้นคุณภาพที่เข้มข้น กว่ารูปแบบอื่น ๆ
ปัญหาและความท้าทายของ MOOC
ปัญหาท้าทายมากที่สุดของ MOOC ก็คืออัตราการเลิกเรียนหรือเรียนไม่จบยังสูงมาก
โดยครั้งหนึ่งได้มีการสำรวจพบว่ามีนักเรียนเข้าไปลงทะเบียนเรียนใน edX วิชา Circuits &
Electronics จำนวนมากถึง 155,000 คน
แต่มี 23,000
คนเท่านั้นที่ได้แต้มไปบ้าง (หมายถึงได้ลงมือทำแบบฝึกหัดอะไรไปบ้าง) แต่มีเพียง 9,300
คนที่ผ่านการสอบกลางภาค พอถึงก่อนสอบปลายภาคก็เหลือนักเรียนแค่ 8,200 คน ซึ่งจากจำนวนนี้มี 7,000
คนเท่านั้นที่ผ่านหลักสูตรโดยสมบูรณ์
และจากจากสำรวจเจาะลึกพบกว่า
มีเพียงครึ่งหนึ่งจากผู้เรียนจบเท่านั้นที่มีอายุอยู่ในวัยเรียนมหาวิทยาลัยตามระบบ ที่สำคัญคือสองในสามของนักเรียนกลุ่มนี้
ยอมรับว่าเคยเรียนวิชาที่คล้ายกับวิชา Circuits & Electronics มาแล้ว แต่เกือบทุกคนบอกว่าการออกแบบหลักสูตรของ edX ดีกว่าที่เคยเรียน จะเห็นได้ว่า MOOC
อาจเป็นช่องทางการเรียนเสริมที่ดีมากกว่าการเรียนที่จะเอาประกาศนียบัตร แต่ทำอย่างไรถึงจะให้ผู้เรียนตั้งใจเรียนจนจบในอัตราส่วนที่มากกว่านี้
โอกาสของคนทำอีเลิร์นนิง และครู/อาจารย์
MOOC มีโอกาสที่จะไม่ใช่แค่มา “ปรับโฉม”
รูปแบบการศึกษาในโลกยุคดิจิตอลเท่านั้น แต่อาจถึงขั้น “ปฏิวัติ” การศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับอุดมศึกษากันเลยทีเดียว (แต่มหาวิทยาลัยในรูปแบบเดิมก็ยังคงอยู่)
ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสอย่างกว้างขวางสำหรับนักเรียนแล้ว
ยังเปิดโอกาสให้กับนักพัฒนาสื่อการเรียนการสอนแบบดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบการสอน (Instructional
Designer), นักพัฒนาหลักสูตร (Courseware Engineer), นักออกแบบกราฟิก, นักถ่ายและตัดต่อวิดิโอ
แม้กระทั่งครูอาจารย์ที่จะได้บทบาทเพิ่มเติมเป็นนักแสดง นักเล่าเรื่อง
และนักเขียนบทอีกด้วย
ซึ่งดูเหมือนงานจะมากขึ้น
แต่ความจริงแล้วงานสอนจะมีความสร้างสรรค์และมีคุณภาพมากขึ้น
แต่เหนื่อยที่ต้องพูดซ้ำๆ กันน้อยลงมากมาย
นอกจากนี้ยังมีโอกาสทำรายได้มากขึ้นจากส่วนแบ่งของการสอนอีกด้วย
แหล่งที่มา
- http://sipaedumarket.wordpress.com/2014/04/20/mooc
- http://www.thailibrary.in.th/2014/04/01/moocs/
- http://stang.sc.mahidol.ac.th/newsletter/pdf/apr57-1.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น