ICT Literacy and 21st Century skills
ICT
ความหมายของ ICT
ICT คือ การใช้ computer
Software และอุปกรณ์ร่วมใน การทำงานเพื่อประมวลผลข้อมูล
จัดเก็บอย่างเป็นระบบ สืบค้นสารสนเทศ รวมถึงการใช้เครือข่ายและเทคโนโลยีต่าง ๆ
ในการสื่อสารความเร็วสูง เพื่อรับส่ง สารสนเทศด้วยความสะดวก รวดเร็ว
เพื่อนำไปใช้ใน วงการต่าง ๆ
ควรเป็นวิชาหรือเครื่องมือ
-
ICT ในฐานะเป็นวิชา(Subject) หมายถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับ
ICTโดยตรง
- ICT ในฐานะเป็นเครื่องมือ(tools)
หมายถึงการใช้ ICT เพื่อให้ครูใช้
สอนและผู้เรียนใช้เรียน
- ICT ในฐานะเป็นเครื่องมือช่วย
หมายถึงการใช้ ICT เป็นเครื่องมือ ช่วยในการทำงาน
เช่นการรวบรวมเอกสาร เตรียมการสอน การวิจัย
การใช้งานลักษณะนี้จะเป็นอิสระจากวิชาเรียน
- ICT ในฐานะเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการ
หมายถึงการใช้ ICTในการจัดการระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS)
จุดหมายการใช้ ICTในการเรียนการสอน
ด้านผู้เรียน
- การรู้เทคโนโลยี
และรู้สารสนเทศ ในระดับพื้นฐานเพื่อสามารถเข้าถึงและสามารถใช้ ICTเพื่อการค้นคว้า รวบรวมและประมวลผลจากแหล่งต่าง ๆ
เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่
- บูรณาการความรู้ด้านเทคโนโลยีและทักษะการจัดการสารสนเทศเพื่อพัฒนาความสามารถในการวิเคราะห์
การคิดอย่างสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาและการทางานเป็นทีม
- กระตุ้นให้ผู้เรียนพัฒนาคุณค่า
ทัศนคติ และจริยธรรมในเชิงบวก
- ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสเข้าถึง
ใช้ และเรียนรู้ทักษะไอซีทีในการศึกษา
ด้านผู้สอน
- ผู้สอนควรมีความรู้และทักษะไอซีทีในระดับสูง
รวมถึงเข้าใจในพัฒนาการของการใช้สื่อเทคโนโลยีการเรียนการสอนโดยมีจุดมุ่งหมายดังนี้
- คอมพิวเตอร์จะเป็นเครื่องมือหลักสำคัญสาหรับผู้สอนเพื่อเข้าถึงทรัพยากรการเรียน
การเตรียมแผนการสอน ให้การบ้าน และติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง
- ผู้สอนควรได้รับการอบรมในการใช้ไอซีทีและสามารถบูรณาการไอซีทีในกิจกรรมการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์
- ผู้สอนควรติดตามการพัฒนาและความก้าวหน้าของไอซีทีเพื่อนามาใช้เป็นประโยชน์ในการเรียนการสอน
- ครูไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ใช้คอมพิวเตอร์เป็น และไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้
และต้องมีวิชาสอนด้วยการบูรณาการไอซีทีหลักการและแนวคิด
กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกอบด้วย ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึง (Access) การจัดการ
(Manage) การบูรณาการ (Intergrate) การประเมินผล
(Evaluate) และการสร้างสารสนเทศ (Create Information)ตลอดจน ความสามารถในการ ประยุกต์ใช้และถ่ายทอดสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจาเป็นต้องอาศัยทักษะ การคิดทุกทักษะตลอดทั้งกระบวนการ จึงจะทำให้ผู้เรียนเป็น
“การรู้เท่าทันไอซีที (ICT Literacy)”
2. เพื่อพัฒนากระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสาร (ICT)
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาทักษะการคิด2. เพื่อพัฒนากระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสาร (ICT)
มาตรฐานการแสดงออกของกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Literacy) ได้แก่
1. สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย
2. คัดเลือกข้อมูลที่มีคุณภาพและจัดการข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
3. เลือกใช้วิธีการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับแหล่งข้อมูล
4. สรุปใจความสำคัญของข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น
5. สังเคราะห์ขอมูลเพื่อสร้างความคิดใหม่
6. เปรียบเทียบความรู้เดิมกับความรู้ใหม่เพื่อตัดสินใจเลือกใช้ข้อมูล
7. ประยุกต์ใช้ความรู้เดิมเข้ากับความรู้ใหม่เพื่อวางแผนและสร้างสรรค์ผลงาน
8. แลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้อื่นด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
9. นาเสนอผลงานที่ภาคภูมิใจต่อผู้อื่น
10. มีจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสาร
ยุทธศาสตร์การเรียนรู้
1. จัดให้ผู้เรียนเรียนรู้ตามสภาพจริง ด้วยการปฎิบัติจริง (Authentic Learning)
2. จัดให้มีการเรียนรู้ตามความสนใจเพื่อให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น (Active Learning)
3. จัดให้ผู้เรียนเรียนรู้และร่วมมือช่วยเหลือกัน (Collabolative Learning) มีการจัดการความรู้โดย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วยวิธีการที่หลากหลาย
4. ประเมินผลตามสภาพจริงจากการปฏิบัติงานของผู้เรียน (Authentic Assessment)
ผลที่เกิดกับผู้เรียน
1. ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการคิด
2. ผู้เรียนมีกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอสาร (ICT)
การใช้ ICT กับการเรียนการสอน
1. เป็นวิถีทางการแสวงหาความรู้
ด้วยตนเอง
2. ผู้เรียนเป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการเรียนรู้นั้นด้วยตนเอง
3. ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนการสอนนั้นได้โดยที่ครู
เป็นผู้ดูแลอยู่ห่างๆ
4. เป็นการสร้างลักษณะนิสัยให้ผู้เรียนมีความใฝ่รู้ซึ่งตรงกับ
พ.ร.บ. 2542 ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
รู้จักแสวงหาความรู้ให้สอดคล้องกับ ความสนใจและความถนัดของผู้เรียน
“ครู”มีบทบาทเป็นผู้ให้แนวทาง
เป็นพี่เลี้ยงผู้อานวย ความสะดวก
“ผู้เรียน”มีการพัฒนาจากการเป็นผู้ใช้
สู่การเป็นผู้ผลิตผ่านกระบวนการคิดสร้างสรรค์อย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้ ICT ในการค้นหา เรียนรู้ จัดทา นาเสนอ สะท้อนข้อคิดเห็นสรุป
ทักษะการรู้เท่าทันเทคโนโลยีสารสนเทศ
(ICT Literacy) หมายถึงความสนใจ
ทัศนคติและความสามารถของแต่ละบุคคลในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเครื่องมือการสื่อสารในการเข้าถึงสารสนเทศการจัดการ
การเชื่อมโยง การประเมิน การลำดับเนื้อหาและการสื่อสาร เพื่อใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นการมีทักษะการเรียนรู้เท่าทันเทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นการผสมผสานความรู้ทุกสาขาวิชารวมถึงทักษะการเรียนรู้และการใช้ชีวิต
21st Century skills
ความสำคัญ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
ปัจจุบันเป็นยุคที่โลกมีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อันสืบเนื่องมาจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลต่าง
ๆ ของทุกภูมิภาคของโลกเข้าด้วยกัน กระแสการปรับเปลี่ยนทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่
21 ส่งผลต่อวิถีการดำรงชีพของสังคมอย่างทั่วถึง ครูจึงต้องมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมในการจัดการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะสำหรับการออกไปดำรงชีวิตในโลกในศตวรรษที่
21 ที่เปลี่ยนไปจากศตวรรษที่ 20 และ
19 โดยทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญที่สุด คือ
ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skill) ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เด็กในศตวรรษที่
21 นี้ มีความรู้ ความสามารถ และทักษะจำเป็น ซึ่งเป็นผลจากการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดการเรียนการสอน
ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ
ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้ดังกล่าว
ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
(21st
Century Skills) คือทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่
21 ดังนี้
สาระวิชาหลัก (Core Subjects)
ประกอบด้วย
ภาษาแม่
และภาษาสำคัญของโลก
ศิลปะ
คณิตศาสตร์
การปกครองและหน้าที่พลเมือง
เศรษฐศาสตร์
วิทยาศาสตร์
ภูมิศาสตร์
ประวัติศาสตร์กรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
กรอบแนวคิดเชิงมโนทัศน์สำหรับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
เป็นที่ยอมรับในการสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Model of 21st
Century Outcomes and Support Systems) ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเนื่องด้วยเป็นกรอบแนวคิดที่เน้นผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียน
(Student Outcomes) ทั้งในด้านความรู้สาระวิชาหลัก (Core Subjects) และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
ที่จะช่วยผู้เรียนได้เตรียมความพร้อมในหลากหลายด้าน
รวมทั้งระบบสนับสนุนการเรียนรู้ ได้แก่มาตรฐานและการประเมิน
หลักสูตรและการเยนการสอน การพัฒนาครู สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนในศตวรรษที่
21
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต้องก้าวข้าม “สาระวิชา”
ไปสู่การเรียนรู้ “ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21” (21st Century Skills) ซึ่งครูจะเป็นผู้สอนไม่ได้
แต่ต้องให้นักเรียนเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูจะออกแบบการเรียนรู้ ฝึกฝนให้ตนเองเป็นโค้ช
(Coach) และอำนวยความสะดวก (Facilitator) ในการเรียนรู้แบบ PBL (Problem-Based Learning) ของนักเรียน
ซึ่งสิ่งที่เป็นตัวช่วยของครูในการจัดการเรียนรู้คือ
ชุมชนการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ (Professional Learning Communities : PLC) เกิดจากการรวมตัวกันของครูเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำหน้าที่ของครูแต่ละคนนั่นเอง
หลักสูตรและการสอนในศตวรรษที่ 21
1). การสอนให้เกิดทักษะการเรียนในศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นเชิงสหวิทยาการของวิชาแกนหลัก
2). สร้างโอกาสที่จะประยุกต์ทักษะเชิงบูรณาการข้ามสาระเนื้อหา และสร้างระบบการเรียนรู้ที่เน้นสมรรถนะเป็นฐาน
(Competency-based )
3). สร้างนวัตกรรมและวิธีการเรียนรู้ในเชิงบูรณาการที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวเกื้อหนุน การเรียนรู้แบบสืบค้น และวิธีการ
เรียนจากการใช้ปัญหาเป็นฐาน ( Problem-based Learning ) เพื่อการสร้างทักษะขั้นสูงทางการคิด
การพัฒนาทางวิชาชีพในศตวรรษที่ 21
1). จุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อการสร้างครูให้เป็นผู้ที่มีทักษะความรู้ความสามารถในเชิงบูรณาการ
การใช้เครื่องมือและกำหนดยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน และสร้างให้ครูมีความสามรรถในการวิเคราะห์และกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ได้เหมาะสม
2). สร้างความสมบูรณ์แบบในมิติของการสอนด้วยเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย
3). สร้างให้ครูเป็นผู้มีทักษะความรู้ความสามารถในเชิงลึกเกี่ยวกับการแก้ปัญหา
การคิดแบบวิจารณญาณ และทักษะด้านอื่นๆที่สำคัญต่อวิชาชีพ (Halpern. 1998)
4). เป็นยุคแห่งการสร้างสมรรถนะทางวิชาชีพให้เกิดขึ้นกับครูเพื่อเป็นตัวแบบ
( Model ) แห่งการเรียนรู้ของชั้นเรียนที่จะนาไปสู่การสร้างทักษะการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนได้อย่างมีคุณภาพ
5). สร้างให้ครูเป็นผู้ที่มีความสามารถวิเคราะห์ผู้เรียนได้ทั้งรูปแบบการเรียน
สติปัญญา จุดอ่อนจุดแข็งในตัวผู้เรียน เหล่านี้เป็นต้น
6). ช่วยให้ครูได้เกิดการพัฒนาความสามารถให้สูงขึ้นเพื่อนาไปใช้สาหรับการกำหนดกลยุทธ์ทางการสอนและจัดประสบการณ์ทางการเรียนได้เหมาะสมกับบริบททางการเรียนรู้
7). สนับสนุนให้เกิดการประเมินผู้เรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างทักษะและเกิดการพัฒนาการเรียนรู้
8). แบ่งปันความรู้ระหว่างชุมชนทางการเรียนรู้โดยใช้ช่องทางหลากหลายในการสื่อสารให้เกิดขึ้น
9). สร้างให้เกิดตัวแบบที่มีการพัฒนาทางวิชาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
1). สร้างสรรค์แนวปฏิบัติทางการเรียน
การรับการสนับสนุนจากบุคลากรและสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เกื้อหนุน เพื่อช่วยให้การเรียนการสอนบรรลุผล
2). สนับสนุนทางวิชาชีพแก่ชุมชนทั้งในด้านการให้การศึกษา
การมีส่วนร่วม การแบ่งปันสิ่งปฏิบัติที่เป็นเลิศระหว่างกันรวมทั้งการบูรณาการหลอมรวมทักษะหลากหลายสู่การปฏิบัติในชั้นเรียน
3). สร้างผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากสิ่งที่ปฏิบัติจริงตามบริบท
โดยเฉพาะการเรียนแบบโครงงาน
4). สร้างโอกาสในการเข้าถึงสื่อเทคโนโลยี
เครื่องมือหรือแหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
5). ออกแบบระบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมทั้งการเรียนเป็นกลุ่มหรือการเรียนรายบุคคล
6). นำไปสู่การพัฒนาและขยายผลสู่ชุมชนทั้งในรูปแบบการเผชิญหน้าหรือระบบออนไลน์
ที่กล่าวมาทั้งหมดในเบื้องต้นนั้น เป็นการสร้างกรอบแนวคิดของการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่ผ่านกระบวนการวิจัยโดย
Partnership for 21st Century Skills เป็นตัวแบบที่นาเสนอในรายละเอียดของตัวแปรหรือองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพทางการเรียนรู้ในสังคมยุคใหม่ที่ต้องคำนึงถึง
และต้องสร้างให้เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้องกับการศึกษาทุกฝ่ายทั้งครู นักเรียน ผู้บริหาร
ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย (Stakeholders)
แหล่งที่มา
- http://www.schoolguide.in.th/index.php?option=com_school&view=contentdetail&id=2&Itemid=56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น